การจะปรับปรุงบริเวณใดบริเวณหนึ่งของบ้าน บางทีเราเเทบจินตนาการไม่ออกเลยว่า พื้นที่เหล่านั้นจะกลับมาสวยงาม พร้อมใช้งานอีกครั้งได้อย่างไร เพราะบริเวณที่เราคิดจะเปลี่ยนเเปลงนั้นสุดเเสนจะเก่าเเละทรุดโทรม ชนิดที่ว่าเเค่เห็นก็เหนื่อยเเล้ว… .อย่าเพิ่งถอดใจล้มเลิกความตั้งใจไปเสียก่อน
วันนี้ ไอเดียบุค จะพาไปดูภาพก่อนเเละหลัง ของห้องครัวเก่าที่เเสนจะคับเเคบเเละดูไม่สะอาดว่า เมื่อเเปลงโฉมใหม่จะสวยงามน่าใช้เพียงใด ซึ่งการปรับปรุงนี้อาจจะปรับเปลี่ยนตั้งเเต่โครงสร้าง หรือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่ เพื่อให้ได้ครัวใหม่ที่น่าใช้ไปอีกนาน
ตู้เก็บจานชามรวมไปถึงเครื่องปรุง เป็นเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานที่ทุกครัวต้องมี เเต่หากว่าเรามีตู้ขนาดใหญ่อยู่ด้านล่างเเล้ว ด้านบนยังเสริมด้วยตู้เเขวนเข้าไปอีก เเม้ว่าจะใช้เก็บของได้ เเต่ก็ทำให้ห้องครัวนั้นดูทึบเเละคับเเคบ
เปลี่ยนตู้ทึบเเบบเดิม มาเป็นสไตล์วินเทจคันทรี่ ตู้สีขาวดูสะอาด สบายตา พร้อมเจาะช่องใส่เตาอบเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ ท็อปไม้ด้านบนก็น่าใช้งานสุดๆ ที่สำคัญเปลี่ยนตู้เเขวน เป็นชั้นวางของเเบบโปร่งเพื่อเเก้ไขเรื่องความทึบ ถ้าของเยอะ เราก็สามารถทำชั้นวางของได้สองชั้น นอกจากจะหยิบของมาใช้ได้ง่ายเเล้ว ยังทำให้ดูสบายตาขึ้นมากอีกด้วย
เคาเตอร์ตัวเเอล ที่มีทั้งอาหารเเละข้าวของวางจนเต็ม ยิ่งไปกว่านั้นการวางโต๊ะกินข้าวเเละตู้เย็นที่ดูจะขวางพื้นที่การใช้งาน เป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม เเต่นี่คือจุดใหญ่เลยที่ทำให้ครัวดูอึดอัดเเละรกรุงรังเป็นที่สุด
เคาเตอร์ตัว U (ยู) ช่วยให้คุณมีพื้นที่ในการใช้งานเเละเก็บของได้มากขึ้น การเลือกใช้ตู้สีน้ำตาลตัดกับสีดำทำให้ครัวดูหรูหรา เเละเมื่อยกตู้เย็นออก ก็จะได้เห็นประตูที่มีเเสงเเดดลอดผ่าน ทำให้ครัวดูโปร่ง กว้างขึ้นกว่าเดิมมาก
ดูเผินๆ มุมเล็กๆ มุมนี้ดูไม่เหมือนห้องครัวสักเท่าไร บรรยากาศห้องครัวดูมืด ถึงเเม้จะมีหน้าต่าง การนำโต๊ะที่ดูไม่สามารถใช้งานในห้องครัวได้มาวาง ทำให้เสียพื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์ ถึงเเม้ครัวนี้ไม่ได้ดูรกตา เเต่ในเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานนั้นคงต้องปรับเปลี่ยนกันใหม่
เมื่อได้ปรับเเบบเคาเตอร์ครัวที่สามารถใช้ประกอบอาหารได้จริง เเละทาสีขาวใหม่ทั้งห้อง ทำให้ห้องนี้ดูสว่างกว่าเดิม เเละเเล้วมุมเล็กๆ มุมนี้กลับกลายห้องครัวเเสนน่ารักขึ้นมาทันตา จุดเด่นที่ดีของห้องครัวนี้คือมีหน้าต่างไว้ระบายอากาศรวมถึงให้เเสงเข้า เราจึงไม่ต้องกังวลเรื่องความทึบเลย เเละเมื่อโต๊ะกินข้าวขนาดกระทัดรัดได้มาวางถูกที่ เวลากินข้าวเราจะได้เห็นวิวนอกหน้าหน้าต่างที่เเสนสบายตา สบายใจ
จริงๆ เเล้วห้องครัวนี้มีความสวยงามตามเเบบฉบับยุค 80 ด้วยกระเบื้องลายโบราณ สีเบจ เเต่เมื่อมาอยู่ในยุคปัจจุบัน จะเรียกได้ว่าเป็นความงามที่ตกยุคไปหน่อย ดูจากพื้นที่เเล้วห้องครัวนี้ไม่มีหน้าต่างให้เเสงเข้าเลย เเละห้องที่ถัดไปจากห้องครัวนั้นก็ดูมืดจนน่ากลัว พาให้บรรยกาศดูเศร้าอย่างบอกไม่ถูก
วิธีเเก้ห้องครัวที่ไม่มีเเสงเข้านั้นง่ายมาก เพียงเเค่เลือกใช้สีขาวมาเป็นสีหลัก จะเห็นว่าการปรับเปลี่ยนห้องครัวนี้เรียกได้ว่าจากหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่ว่าจะเป็นการนำเคาเตอร์สีขาวที่ใช้หินเเกรนิตสีดำมาเป็นท็อป ทำให้ได้ความรู้สึกโมเดิร์นไปเต็มๆ การติดตั้งราวเเขวนอุปกรณ์ทำครัว เเละติดไฟเพื่อให้เเสงสว่างส่องลงมาที่เคาเตอร์ขณะทำอาหาร เรียกได้ว่าครัวนี้ฉีกความโบราณออกทุกสิ่ง
ดูรวมๆ เเล้วครัวนี้ไม่เเย่ เเค่ดูน่าเบื่อด้วยรูปเเบบเดิมๆ นั่นคือการนำเคาเตอร์ตัวเเอล(L) มาใช้ รูปเเบบตู้ที่ดูเชย จะเห็นว่าถัดไปจากครัวคือห้องนั่งเล่น ทำอย่างไรเราจะทำให้ทั้งสองห้องนี้ดูสามารถงานร่วมกันได้เเบบกลมกลืน
ห้องครัวนี้ยังใช้เเปลนเดิม เเค่ปรับเปลี่ยนรูปเเบบเคาเตอร์ตัว L (เเอล) จากที่อยู่ในระดับเดียวกัน ให้เป็นเคาเตอร์บาร์สูง เพื่อกั้นระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น ถือว่าได้มุมใหม่ในการนั่งรับประทานอาหาร ใส่ลูกเล่นด้วยไฟที่ห้อยลงมา ช่วยเพิ่มบรรยากาศบริเวณเคาเตอร์บาร์ให้น่านั่ง ในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนสีไฟในห้องนั่งเล่นให้เป็นสีเดียวกัน ทำให้บรรยากาศดูกลมกลืน
ถ้ามองจากมุมห้องนั่งเล่น จะเห็นลายกระเบื้องเล็กๆ ที่นำมาเรียงต่อกัน ช่วยเพิ่มสีสันให้ห้องครัวดูไม่เรียบจนเกินไป เข้ากับห้องครัวใหม่ที่ดูทันสมัยกว่าเก่า